Fanclub’s
Dream.
ขอดาวในความฝัน
ผม..
เด็กคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับของเขา
..เขา นักร้องชื่อดังที่มีแฟนคลับมากมายทั่วทั้งเอเชีย
มันเป็นยิ่งกว่าฝันที่วันนี้ผมได้แต่งงานกับเขา ได้จรดลายมือลงทะเบียนสมรสแผ่นเดียวกัน
และผมก็ได้ใช้นามสกุลเดียวกันกับเขา
สิ่งที่ผมกำลังเป็นอยู่ในวันนี้ถือได้ว่าเป็นความฝันสูงสุดของแฟนคลับเลยล่ะ
แต่ใครจะรู้บ้างล่ะว่าความฝันที่เป็นจริงนี้จะเป็น ฝันดี หรือ ..ฝันร้าย
“พี่จุนฮยอง! ทำไมเมากลับบ้านมาอีกแล้ว ไม่เมาสักวันจะตายไหมเนี่ย?!” ผมบ่นออกไปยาวๆให้กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของผมโดยที่ตอนนี้ยืนเมาแอ๋เกาะขอบประตูบ้านอยู่
เห็นอย่างนั้นผมก็ต้องเข้าไปพยุงคนเมาเข้าห้องนอนตามหน้าที่
ผมแต่งงานกับเขา ยง จุนฮยอง นักร้องชื่อดังที่มีแฟนคลับหลายล้านคนหมายปอง
แต่ใครจะคิดล่ะว่าจู่ๆเขาจะเลือกผม แฟนคลับรุ่นเด็กที่อายุห่างกันกว่าหกปี
ความฝันที่กำลังจะเป็นจริงมาอยู่ตรงหน้าแล้วใครจะไม่คว้าเอาไว้ล่ะ ..ผมก็เช่นกัน
ตลอดเวลาที่ผมคบกับเขาก็เหมือนคู่รักดาราทั่วไปที่ไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน
มีบางครั้งที่ไปเดทกันนอกบ้านแล้วมีคนแอบถ่ายเอาไปลงข่าวแม้จะพยายามพลางตัวแล้วก็ตาม
คบกันได้เพียงสองเดือน เขาก็ขอผมแต่งงาน
วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดเพราะผมกำลังจะมีคำว่าครอบครัวร่วมกันกับเขา
ผมคิดว่าทุกคนจะต้องอิจฉาผมแน่ๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมก็เริ่มเปลี่ยนความคิด เพียงหนึ่งอาทิตย์หลังจากแต่งงานกันเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
จากคนอารมณ์ดีกลายเป็นคนขี้โมโห
จากคนที่เคยเอาใจใส่ผมกลับเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ใส่ใจอะไร
นึกจะกลับบ้านตอนไหนก็กลับโดยไม่คิดถึงผมที่รออยู่เลย
เขาเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนกัน ผมเข้าใจว่าทำงานในวงการแบบนี้
การเลี้ยงสังสรรค์มันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หลังๆมาเขาเมากลับบ้านแทบทุกวันแถมยังไม่เคยกลับบ้านหลังตีสองด้วย
ผมเคยเตือนเขาเรื่องดื่มแล้วขับรถมันอันตรายแต่เขากลับพูดเหมือนว่าผมกำลังก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาอยู่
ล่าสุดผมเห็นรอยลิปสติกที่คอของเขา
ผมจึงถามเขาไปตรงๆว่าเขากำลังนอกใจผมอยู่หรือเปล่า
และสุดท้ายเราก็จบด้วยการทะเลาะอย่างห้ามไม่ได้
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นอาทิตย์เพราะเขาไปกลับบ้าน
แต่พอรู้ว่าเขาไปค้างบ้านเพื่อนในวงผมก็หายห่วงไปนิดนึง
วันนี้ก็เป็นวันแรกที่เขากลับมาหลังจากที่เขาหายไปหนึ่งอาทิตย์เต็ม
และก็เหมือนเดิม เขาเมากลับบ้านมาเหมือนเดิม..
“นี่พี่ขับรถกลับบ้านเองอีกแล้วใช่ไหม? ผมบอกแล้วไงว่าถ้าเมาก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านสิ
ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่ามันอันตราย พี่ไม่รู้เหรอว่าผมเป็นห่วงพี่?” ฮยอนซึงบ่นกับคนเมาที่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนเตียง
มือเรียวสวยกำลังถอดรองเท้าและถุงเท้าสามีออกอย่างที่เคยทำ
จากนั้นเขาจึงลุกออกจากห้องนอนไป
ร่างบางเดินกลับเข้ามาพร้อมกะละมังในหนึ่ง มือเรียวจัดการจุ่มผ้าลงไปในน้ำ
บิดให้หมาด ก่อนจะบรรจงวางผ้าลงบนหน้าผากคนที่นอนอยู่
“พี่รู้ไหมว่าวันนั้นผมเป็นห่วงพี่แค่ไหน
ผมกลัวแค่ไหนที่พี่ขับรถออกไปเร็วขนาดนั้น ทำไมผมโทรไปพี่ไม่เคยรับสายผมเลย
นี่ถ้าเพื่อนพี่ไม่โทรมาบอก พี่คิดบ้างไหมว่าผมจะเป็นยังไง ฮึก” ฮยอนซึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อในขณะที่มือก็ทำหน้าเช็ดตัวคนเมาไปเรื่อยๆ
แต่เหมือนยิ่งพูด น้ำตาของร่างบางก็ยิ่งเอ่อขึ้นมาจนในที่สุดก็กลั้นเอาไม่ไหว
“อย่าร้องไห้” ทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้น
จุนฮยองก็ลืมตาขึ้นมา มือแกร่งยื่นไปเกลี่ยน้ำตาบนแก้มใสออกอย่างเบามือ
“ผมคิดถึงพี่ขนาดไหน ฮึก ผมเป็นห่วงพี่แค่ไหน พี่รู้บ้างไหม? ฮือออ”
“รู้ เพราะฉันก็คิดถึงนายจนทนไม่ไหวเหมือนกัน ฉันเลยกลับมานี่ไง” จุนฮยองตอบคำถามก่อนจะลุกขึ้นไปกอดคนที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง
“พี่ใจร้าย ฮึก ทิ้งผมไปตั้งอาทิตย์นึง ฮึก
ผมคิดว่าจะต้องเลิกกับพี่จริงๆแล้วซะอีก ฮือออ”
“ไม่ร้องๆ ตาบวมหมดแล้วเนี่ย” จุนฮยองพูดก่อนจะเช็ดน้ำตาอีกคนออกจนหมด จากนั้นก็ก้มลงจูบอีกคนอย่างโหยหา
ลิ้นหนาเข้าไปหยอกล้อลิ้นบางด้วยความคิดถึงเนิ่นนาน
แต่เมื่อเห็นร่างบางใกล้หมดอากาศหายใจ
ปากหนาจึงจำต้องผละออกแต่ก็ไม่วายที่จะฝังรอยเขี้ยวไว้ที่ริมฝีปากบางก่อนจาก
“...” ฮยอนซึงได้แต่มองอีกคนตาเยิ้มโดยไม่พูดอะไรออกมาเพราะเขิน
แต่ในสายตาจุนฮยองกลับมองว่าอีกคนกำลังเชื้อเชิญไปเสียได้
จุนฮยองจับร่างบางกดลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว
ความร้อนแรงของร่างสูงถูกส่งผ่านมาตามอากาศที่ใช้หายใจจนฮยอนซึงหน้าเริ่มแดงและหายใจได้ไม่ทั่วท้อง
มือแกร่งค่อยๆปลดกระดุมชุดนอนของอีกคนโดยที่สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยและตากลมโตที่ทำเขาแทบคลั่งตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
เพียงไม่นานทั้งสองคนก็ไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย
ร่างบางนอนเอามือปิดหน้าด้วยความเขินอายต่างจากอีกคนที่เอาแต่จ้องเหยื่อตรงหน้าด้วยความหื่นกระหาย
“ปิดหน้าทำไม? เคยทำกันมาตั้งกี่ครั้งแล้ว” จุนฮยองเอ่ยแซว
“ก็ผมเขินนี่!” ฮยอนซึงตอบทั้งๆที่เอามือปิดหน้าอยู่ เห็นอย่างนั้นจุนฮยองจึงจับมือเล็กออกมาแล้วก้มลงมอบจูบอันดูดดื่มให้เพื่อปลุกอารมณ์อีกคน
ขณะที่จูบกันอยู่
จู่ๆฮยอนซึงก็สะดุ้งเฮือกเมื่อมือที่ถูกร่างสูงจับเอาไว้อยู่ถูกพาไปไว้ในที่ที่ไม่ควรไว้
“ฮยอนซึงอา.. ทำให้มันแข็งให้หน่อยสิ” จุนฮยองว่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“คะ.. ครับ” ฮยอนซึงตอบรับเพราะไม่อยากขัดใจสามีตัวเอง
มือเรียวที่กำลังสั่นค่อยๆยื่นไปเตะแท่งเนื้อร้อนที่ห้อยอยู่ตรงหน้า
มือเรียวค่อยๆกำเอาไว้จนเต็มมือ จากนั้นจึงเริ่มขยับขึ้นลง
ทั้งขนาดและความยาวที่ฮยอนซึงกำลังสัมผัสทำเอาร่างบางถึงกับหน้าร้อนผ่าว
แถมตอนนี้คนข้างบนก็ดูเซ็กซี่มากจริงๆ
“ใช้ปากได้ไหมฮยอนซึงอา?” ขณะที่จุนฮยองกำลังมีความสุขกับมือเล็ก
อยู่ๆเขาก็มีความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวเพราะเขายังไม่เคยทำแบบนี้กับภรรยามาก่อน
ไม่รอให้อีกคนตอบ
จุนฮยองก็ลุกขึ้นยัดแท่งเนื้อร้อนที่แข็งตัวแล้วเขาปากบางอย่างไม่รีรอ
“ลองเลียสิฮยอนซึงอา” จุนฮยองกัดฟันออกคำสั่งเพราะตอนนี้เขารู้สึกเสียวอย่างมาก
ลิ้นเล็กที่กำลังค่อยๆขยับยิ่งสร้างความเสียวให้อีกคนมากขึ้นไปอีกจนจุนฮยองเผลอกระแทกใส่ปากบาง
เมื่อลิ้นเล็กเลียเร็วขึ้น
อารมณ์ของจุนฮยองจึงมากขึ้นจนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวกระแทกใส่ปากบางไปสองสามทีแรงๆก่อนจะปลดปล่อยน้ำหวานออกมา
“พี่จุนฮยอง ผมเจ็บปากนะครับ” เมื่อปากว่าง
ร่างบางก็บ่นออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ขอโทษๆ แต่มันเสียวดีนะ
เดี๋ยวฉันทำให้นายบ้างแล้วกัน” จุนฮยองว่าก่อนจะก้มลงไปดูดกลืนแก่นกายเล็กทำให้มือเรียวเผลอขยำกลุ่มผมของอีกคนด้วยความตกใจ
“อ๊ะ พี่จุน อ๊ะ ผม สะ.. เสียว อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา~” เพียงไม่นานร่างบางก็ครางออกมาไม่เป็นศัพท์ก่อนจะปลดปล่อยใส่ปากหนา
“เสียวใช่ไหมล่ะ? หึๆ
ต่อไปนายได้เสียวกว่าเดิมแน่” จุนฮยองพูดขู่ก่อนจะจับร่างบางให้อยู่ในท่าคลาน
จากนั้นเขาก็รูดแท่งเนื้อร้อนของตัวเองให้แข็งขืนขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกระแทกเข้าช่องทางสีสวยรวดเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น